ระบบข่าวประชาสัมพันธ์

ห้างหุ้นส่วนจำกัด เว็บเซอร์วิสเฮาส์

โครงการพัฒนาระบบบริหารจัดการสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก มีวัตถุประสงค์ เป้าหมาย และผลผลิตสอดคล้องกับนโยบาย ยุทธศาสตร์ และแผนพัฒนาประเทศในปัจจุบันที่สำคัญ ดังนี้
1) แผนระดับที่ 1 ได้แก่ ยุทธศาสตร์ชาติ (พ.ศ. 2561 - 2580) ยุทธศาสตร์ที่ 2 ด้านการสร้างความสามารถในการแข่งขัน
2) แผนระดับที่ 2 ได้แก่
- (1) แผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ พ.ศ. 2561 - 2580 ประเด็นที่ 9 เขตเศรษฐกิจพิเศษ แผนย่อยการพัฒนาเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก และประเด็นที่ 6 พื้นที่และเมืองน่าอยู่อัจฉริยะ
- (2) แผนการปฏิรูปประเทศด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่องสิ่งแวดล้อม และประเด็นปฏิรูปที่ 1 เสริมสร้างระบบบริหารจัดการมลพิษที่แหล่งกำเนิดให้มีประสิทธิภาพ และ
- (3) แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 12 (พ.ศ. 2560 - 2564) ยุทธศาสตร์ที่ 9 การพัฒนาภาคเมือง และพื้นที่เศรษฐกิจ และ
3) แผนระดับที่ 3 ได้แก่
- (1) แผนจัดการคุณภาพสิ่งแวดล้อม (พ.ศ. 2560 - 2564)
- (2) (ร่าง) แผนสิ่งแวดล้อมในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (ระยะที่ 2) พ.ศ. 2564 - 2569 และ
- (3) แผนปฏิบัติราชการสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ระยะ 3 ปี (พ.ศ. 2563 - 2565) ด้านการจัดการสิ่งแวดล้อมภูมินิเวศ สิ่งแวดล้อมธรรมชาติและศิลปกรรม พื้นที่สีเขียว และพื้นที่คุ้มครองสิ่งแวดล้อม เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน
ที่มา/สภาพปัญหาความต้องการ/ความเร่งด่วน
นโยบายรัฐบาลให้ความสำคัญกับการยกระดับคุณภาพของประเทศในทุกภาคส่วน และพัฒนาประเทศไปสู่การเป็นประเทศที่มีรายได้สูง อยู่ในกลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว โดยการนำนโยบายไทยแลนด์ 4.0 มาช่วยยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของภาคการผลิตและภาคบริการ บนฐานของเทคโนโลยีสมัยใหม่และนวัตกรรม โดยเน้นการพัฒนาใน 12 อุตสาหกรรมเป้าหมาย ซึ่งเป็นสิ่งที่รัฐบาลให้ความสำคัญสำหรับการขับเคลื่อนการดำเนินงานในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก ที่เน้นการพัฒนาเชิงพื้นที่ ทั้งทางกายภาพและทางสังคม เพื่อยกระดับความสามารถในการแข่งขันของประเทศ โดยเฉพาะการยกระดับอุตสาหกรรมเป็นศูนย์กลางการคมนาคมขนส่งโลจิสติกส์ และเน้นการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานที่ทันสมัยและการท่องเที่ยว เพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขันและทำให้เศรษฐกิจของไทยเติบโตได้ในระยะยาวและเป็นเขตเศรษฐกิจชั้นนำของอาเซียน เชื่อมโยงการพัฒนาภายในประเทศ และประเทศเพื่อนบ้าน โดยจะเป็นโมเดลต้นแบบก่อนขยายไปพื้นที่อื่น โดยในปีที่ผ่านมา สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้จัดทำ “แผนสิ่งแวดล้อมในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (ระยะที่ 2) พ.ศ. 2565 - 2569” เพื่อเป็นกรอบการดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อมในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก พร้อมทั้ง จัดทำระบบข้อมูลสารสนเทศเพื่อการบริหารจัดการ (Management Information System: MIS) เพื่อให้มีข้อมูลสถานการณ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่เป็นปัจจุบันบนพื้นฐานที่สอดคล้องกับข้อเท็จจริงในพื้นที่ และรองรับผลกระทบจากโครงการพัฒนาที่เริ่มดำเนินการไปแล้วบางส่วน และที่จะเกิดขึ้นในอนาคตได้อย่างมีประสิทธิภาพ สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จึงเห็นความจำเป็นในการขับเคลื่อน การดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก อย่างต่อเนื่อง ซึ่งสอดคล้อง กับแผนงานบูรณาการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก ปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 ที่ได้กำหนดแนวทาง การยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนรองรับการขยายตัวของเมืองและการพัฒนาภาคเกษตรอัจฉริยะ ตัวชี้วัด ระบบการบริหารจัดการสิ่งแวดล้อมชุมชนเมืองต้นแบบที่มีประสิทธิภาพ (ขยะ น้ำเสีย อากาศ) และการยกระดับสภาพแวดล้อมเมืองเดิมให้เป็นเมืองใหม่น่าอยู่อัจฉริยะ ภายใต้ประเด็นด้านสิ่งแวดล้อม แผนบริหารจัดการสิ่งแวดล้อมให้มีคุณภาพที่ดีเพื่อเสริมสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีของประชาชน โดยในปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 จะมีโครงการพัฒนาสำคัญ (Flagships) ที่จะมีการก่อสร้าง อาทิ โครงการท่าเทียบเรือแหลมฉบังระยะที่สาม โครงการรถไฟฟ้าความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน และโครงการพัฒนาเขตอุตสาหกรรมที่รองรับอุตสาหกรรมสมัยใหม่ ผลจากการประเมินสถานการณ์ด้านคุณภาพสิ่งแวดล้อม มาตรการ แผน โครงการ และข้อเสนอแนะต่าง ๆ รวมทั้ง ระบบข้อมูลสารสนเทศเพื่อการบริหารจัดการ (Management Information System: MIS) ที่ได้จากการจัดทำแผนสิ่งแวดล้อมในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (ระยะที่ 2) พ.ศ. 2565 - 2569 ในแผนงานบูรณาการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก ปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 เป็นจุดเริ่มต้นสำคัญในการขับเคลื่อนการดำเนินงาน อย่างไรก็ตาม การบริหารจัดการด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมโดยการขับเคลื่อนการดำเนินงานให้บรรลุเป้าหมายอย่างมีประสิทธิภาพ จำเป็นต้องอาศัยเครื่องมือ กลไก ทั้งที่มีอยู่แล้วและต้องศึกษาเพิ่มเติม รวมทั้งการส่งเสริมผลักดันความร่วมมือในการจัดการ ป้องกัน และแก้ไขปัญหา จากทุกภาคส่วนทั้งหน่วยงานราชการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ภาคเอกชน และประชาชน ดังนั้น ในปีงบประมาณ 2565 สผ. จึงเห็นควรขับเคลื่อนการพัฒนาต่อยอดระบบ MIS ให้สามารถประเมินสถานการณ์ด้านการจัดการสิ่งแวดล้อมเพื่อที่จะบ่งชี้ระดับความเสี่ยงหรือคุณภาพในเชิงพื้นที่ โดยกำหนดเกณฑ์ตัวชี้วัดด้านต่าง ๆ ที่เหมาะสม เช่น ด้านคุณภาพสิ่งแวดล้อม ความพร้อมของระบบสาธารณูปโภค ฐานทรัพยากรธรรมชาติ สังคมและเศรษฐกิจ การยอมรับจากชุมชน (community concerns) โดย platform ดังกล่าวจะมีการพัฒนาให้เกิดความเชื่อมโยงการนำเข้าข้อมูลจากหน่วยงานต่าง ๆ แบบอัตโนมัติ ตามนโยบายไทยแลนด์ 4.0 และภาคส่วนที่เกี่ยวข้องสามารถนำไปประยุกต์ใช้เพื่อประเมินสถานการณ์ได้ด้วยตัวเอง และการติดตามผลการดำเนินการมาตรการตามแผนการจัดการสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่อง โดยรวบรวมข้อมูลผลการติดตามตรวจสอบตามมาตรการ EIA ของโครงการในพื้นที่ 3 จังหวัด และมาตรการอื่น ๆ เพื่อจัดทำรายงานผลการดำเนินงานตามแผนฯ และรายงานสถานการณ์คุณภาพสิ่งแวดล้อมประจำปี 2565 เพื่อยกระดับการพัฒนาเมืองที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมผ่านการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีในการบริหารจัดการและติดตามการดำเนินงาน เพื่อส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อมของพื้นที่ อันจะนำไปสู่คุณภาพชีวิตของประชาชนที่ดีขึ้นอย่างยั่งยืนต่อไป
1.2 วัตถุประสงค์
2.1 เพื่อพัฒนาระบบบริหารจัดการสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกและเกณฑ์การประเมินสถานการณ์ด้านการจัดการสิ่งแวดล้อมเพื่อที่จะบ่งชี้ระดับความเสี่ยงหรือคุณภาพในเชิงพื้นที่
2.2 เพื่อขับเคลื่อนการดำเนินงานแผนสิ่งแวดล้อมในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (ระยะที่ 2) พ.ศ. 2565 – 2569
2.3 เพื่อจัดทำและเผยแพร่รายงานสถานการณ์สิ่งแวดล้อมในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกประจำ ปี 2565
1.3 เป้าหมาย
1.3.1. เป้าหมายเชิงผลผลิต

1. หน่วยงานและภาคส่วนที่เกี่ยวข้องสามารถเชื่อมต่อและนำเข้าข้อมูลในระบบบริหารจัดการสิ่งแวดล้อมในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกแบบอัตโนมัติ เพื่อให้ข้อมูลเป็นปัจจุบัน และลดภาระการดำเนินงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
2. ระบบบริหารจัดการสิ่งแวดล้อมฯ ที่เป็นกลไกและเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการบริหารจัดการสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติในภาพรวมของพื้นที่ได้อย่างทันสถานการณ์ และสนับสนุนการเสริมสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีของประชาชนอย่างยั่งยืน เนื่องจากสามารถตอบสนองการดำเนินงานของหน่วยงานและภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง อันจะเป็นตัวอย่างในการขับเคลื่อนการดำเนินงานแบบบูรณาการด้านสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนสู่การปฏิบัติ ที่สามารถใช้ประโยชน์ได้อย่างมีประสิทธิภาพและมีประสิทธิผล
3. การรายงาน (Dashboard) และการแสดงผลการประเมินสถานภาพและคุณภาพสิ่งแวดล้อมตามหลักวิชาการที่ง่ายต่อความเข้าใจของสาธารณชน เพื่อใช้เป็นเครื่องมือในการขับเคลื่อนและติดตามการดำเนินงานด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมของภาคประชาสังคม อาทิ การเฝ้าระวัง ติดตาม ตรวจสอบคุณภาพสิ่งแวดล้อม
1.3.2 เป้าหมายเชิงพื้นที่และกลุ่มเป้าหมาย พื้นที่เป้าหมาย : พื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (จังหวัดชลบุรี ระยอง และฉะเชิงเทรา)
กลุ่มเป้าหมาย : หน่วยงานและภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ทั้งภาครัฐ ภาคการศึกษา ภาคเอกชน ชุมชน และประชาชนในพื้นที่เป้าหมาย 1.4 ขอบเขตการดำเนินงาน
1.4.1 ศึกษา รวมรวม และวิเคราะห์ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินงาน ดังนี้
(1) แผนสิ่งแวดล้อมในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (ระยะที่ 2) พ.ศ. 2565 – 2569 และข้อมูลประกอบการจัดทำแผน อาทิ ผลการศึกษาทบทวนข้อมูล กฎหมาย กฎ ระเบียบ และนโยบาย สถานการณ์และทิศทางการพัฒนา กรอบการดำเนินงาน แนวทาง มาตรการ แผนงาน/โครงการ และปัญหาอุปสรรคการดำเนินงาน โดยเฉพาะการดำเนินงานในเขตควบคุมมลพิษและพื้นที่คุ้มครองสิ่งแวดล้อม รวมทั้ง ผลการวิเคราะห์และประเมินศักยภาพการรองรับด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
(2) ปัจจัยสำคัญที่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก โดยเฉพาะจากโครงการที่อยู่ระหว่างดำเนินการ โครงการที่เตรียมดำเนินการ และโครงการสำคัญเร่งด่วน (Flagship)
(3) โครงสร้างระบบข้อมูลสารสนเทศเพื่อการบริหารจัดการ (Management Information System: MIS) อาทิ Metadata, ER Diagram, Data Flow และเมนูการใช้งานต่าง ๆ เช่น การนำเข้า การแสดงผล การรายงาน และการสนับสนุนการตัดสินใจ รวมทั้งข้อมูลที่บรรจุในระบบข้อมูล
(4) ข้อมูลและระบบฐานข้อมูลอื่นที่เกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติ ทั้งที่ดำเนินงานในพื้นที่เป้าหมาย หรือพื้นที่อื่นที่มีข้อมูลที่จำเป็น เพื่อประมวลผลและกำหนดคุณลักษณะ รวมทั้ง ความพร้อมของข้อมูลในการเชื่อมโยงกับระบบบริหารจัดการสิ่งแวดล้อม
(5) มาตรการและกลไกในการสนับสนุนการเชื่อมโยงและนำเข้าข้อมูลจากหน่วยงาน และภาคส่วนที่เกี่ยวข้องแบบอัตโนมัติ
(6) วิเคราะห์ข้อมูลที่จำเป็น จากข้อ 1 ถึง 5 พร้อมทั้ง วิเคราะห์ศักยภาพและความเป็นไปได้ ในการเชื่อมโยงข้อมูล และยกร่างข้อมูลที่ต้องการเชื่อมโยง รวมทั้ง มาตรการและกลไกฯ