ปัจจุบันผลไม้ของไทยที่จีนอนุญาตให้นำเข้าได้มี 23 ชนิด ได้แก่ ทุเรียน ลำไย มังคุด สับปะรด ละมุด กล้วย เสาวรส ลิ้นจี่ มะพร้าว น้อยหน่า มะขาม มะละกอ มะเฟือง มะม่วง ฝรั่ง เงาะ ชมพู่ ขนุน สละ ลองกอง ส้มเขียวหวาน ส้ม และส้มโอ
ผลไม้ 5 ชนิดที่ต้องปฏิบัติตามพิธีสารไทย-จีน ได้แก่ ลำไย ลิ้นจี่ ทุเรียน มังคุด และมะม่วง ต้องขึ้นทะเบียนสวน GAP และทะเบียนโรงคัดบรรจุ GMP กับกรมวิชาการเกษตร สำหรับลำไยและทุเรียน ต้องจดทะเบียนเป็นผู้ส่งออกกับกรมวิชาการเกษตร โดยภาชนะหรือกล่องบรรจุ ต้องระบุข้อความที่กำหนดดังนี้:
- ชื่อบริษัทผู้ส่งออก (Name of exporting company)
- ชนิดผลไม้ (Fruit Type)
- หมายเลขโรงหีบห่อจดทะเบียน (ทะเบียนโรงคัดบรรจุ)
- วันที่บรรจุ (Packing date)
- ระบุข้อความเป็นภาษาอังกฤษ หรือภาษาจีน ว่า Export to the People’s Republic of China
และต้องปราศจากแมลงวันผลไม้ ไม่มีกิ่ง ก้าน ใบและดิน และต้องไม่พบสาร Methamidophos ในผลไม้ที่ส่งออก ส่วนลำไยที่ส่งออกมีข้อกำหนดในการใช้สารซัลเฟอร์ไดออกไซด์ (SO2) ต้องไม่เกิน 50 PPM. ที่เนื้อลำไย ลิ้นจี่ต้องมีก้านยาวไม่เกิน 15 ซม. ภาชนะบรรจุต้องใหม่ สะอาด และระบุข้อความตามที่กำหนด ผลไม้ไทยที่ส่งออกไปจีน ไม่ต้องเสียภาษีนำเข้า โดยต้องมีหนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้า (Form E) ไปแสดงต่อศุลกากรประเทศจีน สามารถขอ Form E ได้ที่สำนักบริการการค้าต่างประเทศ กรมการค้าต่างระเทศ อย่างไรก็ตาม จีนเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มร้อยละ 13 และหากส่งผ่านมณฑลใดจะต้องศึกษากฎระเบียบของมณฑลนั้นด้วย
กรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ https://www.dft.go.th/แสดงเนื้อหา/ArticleId/7313
ทุเรียนสด | 50396
| พิกัดศุลกากรและรหัสสถิติ |
ประกาศฯ/ระเบียบฯ |
เหตุผล |
หน่วยงานที่รับผิดชอบ |
ผู้มีอำนาจอนุญาต |
| ตามชนิดประเภทสินค้า |
- ประกาศกระทรวงพาณิชย์ว่าด้วยการส่งสินค้าออกไปนอกราชอาณาจักร (ฉบับที่ 91) พ.ศ. 2542 ลงวันที่ 9 กรกฎาคม 2542 - ประกาศกรมวิชาการเกษตร เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขการจดทะเบียนเป็นส่งออกผลทุเรียนสด พ.ศ. 2563 |
เพื่อให้การส่งผลทุเรียนสดออกไปต่างประเทศเป็นไปด้วยความเรียบร้อยและเป็นผลดีต่อเศรษฐกิจของประเทศโดยส่วนรวม |
-กรมการค้าต่างประเทศ (กองบริหารการค้าสินค้าทั่วไป) -กรมวิชาการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ |
กรมศุลกากรตรวจปล่อยสินค้าตามบัญชีรายชื่อผู้ส่งออกที่กรมวิชาการเกษตรแจ้งให้กรมศุลกากรทราบ |
ขอบเขตการควบคุม
ผลทุเรียนสด
ระเบียบและหลักเกณฑ์
1. ผู้ส่งทุเรียนสดออกไปนอกราชอาณาจักรจะต้องเป็นผู้ที่ได้จดทะเบียนเป็นผู้ส่งทุเรียนสดออกไปนอกราชอาณาจักรไว้ต่อกรมวิชาการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ตามหลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการที่กรมวิชาการเกษตรกำหนด และกรมวิชาการเกษตรแจ้งบัญชีรายชื่อและหมายเลขทะเบียนผู้ส่งออกทุเรียนสดให้กรมศุลกากรทราบเพื่อประกอบการส่งออก
2. ผู้ส่งออกจะต้องติดป้าย หรือฉลาก หรือประทับข้อความ โดยระบุข้อความต่อไปนี้เป็นภาษาอังกฤษให้ชัดเจนที่ภาชนะบรรจุ
(1) ชื่อและหมายเลขทะเบียนผู้ส่งออก
(2) ชื่อพืชและพันธุ์
(3) ชั้นและน้ำหนักของสินค้า
(4) ประเทศผู้ผลิต
(5) กำหนดเวลาอายุการรับประทาน
3. ผู้ส่งออกรายงานการส่งทุเรียนสดออกไปนอกราชอาณาจักรต่อกรมวิชาการเกษตร ตามหลักเกณฑ์ที่กรมวิชาการเกษตรกำหนด
4. มิให้ใช้บังคับแก่กรณีนำติดตัวออกไปเพื่อใช้เฉพาะตัว หรือการส่งออกโดยมิใช่การค้า หรือเพื่อเป็นตัวอย่างในปริมาณที่สมควร
สรุปขั้นตอนการส่งออกทุเรียนไปจีน
(ใส่ภาพประกอบ)
ขั้นตอนการส่งออกทุเรียนสด
| ลำดับ |
ขั้นตอน |
รายละเอียด |
หน่วยงานผู้รับผิดชอบ |
| 1 |
จดทะเบียนนิติบุคคล |
ผู้ประกอบการจะได้รับการยกเว้นและสิทธิต่าง ๆ ในการขอคืนภาษีซึ่งผู้ประกอบการจะต้องมีสถานะเป็นนิติบุคคลเท่านั้น |
กรมพัฒนาธุรกิจการค้า |
| 2 |
จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม |
- |
กรมสรรพากร |
| 3 |
ทำบัตรประจำตัวผู้ส่งออก-นำเข้าสินค้า |
ในการติดต่อกรมการค้าต่างประเทศ เพื่อขอใบอนุญาตและหนังสือรับรองการส่งออก-นำเข้าสินค้า ผู้ประกอบการส่งออก-นำเข้า จะต้องปฏิบัติตามระเบียบ ประกาศที่กรมการค้าต่างประเทศและหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกำหนดไว้ให้ครบถ้วน เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวก ลดจำนวนเอกสาร และลดขั้นตอน ในการติดต่อราชการ กรมการค้าต่างประเทศจึงกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการให้ผู้ประกอบการลงทะเบียนผู้ประกอบการ (Registration Database) เพื่อขอใช้งาน User Name กลางนี้ร่วมกับบริการ และ/หรือระบบงานต่างๆ ของกรมการค้าต่างประเทศ โดยมีคำแนะนำในการเตรียมเอกสารและปฏิบัติตามขั้นตอน ดังนี้
1. ผู้ประกอบการส่งออก-นำเข้า และผู้รับมอบอำนาจ ต้องลงทะเบียนผู้ประกอบการทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ เว็บไซต์กรมการค้าต่างประเทศ reg-users.dft.go.th ส่งข้อมูลไปยังระบบฯ ของกรมการค้าต่างประเทศ
2. ผู้ประกอบการส่งออก-นำเข้า/ผู้รับมอบอำนาจ กรอกข้อมูลคำร้องขอมีบัตรประจำตัวผู้ส่งออก-นำเข้า (แบบ บก.1) และ/หรือบัตรประจำตัวผู้รับมอบอำนาจ (แบบ บก.1/1) ในระบบคอมพิวเตอร์ของเว็บไซต์กรมการค้าต่างประเทศ (reg-users.dft.go.th) จากนั้นบันทึกส่งข้อมูลไปยังระบบฯ กรมการค้าต่างประเทศ
3. ผู้ประกอบการส่งออก-นำเข้า และ/หรือผู้รับมอบอำนาจต้องยื่นคำร้องขอมีบัตรประจำตัวฯ ด้วยตนเอง ลงลายมือชื่อและ/หรือตราประทับของบริษัท/ห้าง/ร้าน ในคำร้องขอมีบัตรประจำตัวฯ ต่อหน้าเจ้าหน้าที่งานทะเบียน พร้อมแสดงเอกสารประกอบคำขอที่กรมการค้าต่างประเทศกำหนด
4. กรณีผู้ประกอบการส่งออก-นำเข้ามอบอำนาจให้บุคคลอื่นยื่นคำร้องขอมีบัตรประจำตัว ผู้ส่งออก-นำเข้าและ/หรือบัตรประจำตัวผู้รับมอบอำนาจ ให้ทำหนังสือมอบอำนาจให้ยื่นคำร้องขอมีบัตรประจำตัวฯ (แบบ บก.2) และหนังสือรับรองลายมือชื่อผู้มอบอำนาจ (แบบ บก.3) รับรองโดยทนายความ ที่เป็นสมาชิกสภาทนายความ/สมาชิกสามัญ/วิสามัญแห่งเนติบัณฑิตยสภา ผ่านทางระบบคอมพิวเตอร์ของเว็บไซต์กรมการค้าต่างประเทศ (reg-users.dft.go.th) ใช้สำหรับยื่นฟอร์ม ACFTA (ข้อตกลงการค้าเสรีอาเซียน-จีน) |
กรมการค้าต่างประเทศ |
| 4 |
จดทะเบียนเป็นผู้ส่งออกสินค้าเกษตรไปนอกราชอาณาจักร |
1. ส่งออกทุเรียนสดออกไปนอกราชอาณาจักร ปฏิบัติตาม ประกาศกรมวิชาการเกษตร เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขการจดทะเบียนเป็นผู้ส่งผลทุเรียนสดออกไปนอกราชอาณาจักร (ตามประกาศกรมวิชาการเกษตร เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขการจดทะเบียนเป็นผู้ส่งผลทุเรียนสดออกไปนอกราชอาณาจักร พ.ศ. 2556 ลงวันที่ 5 มิถุนายน 2556)
2.
หนังสือสําคัญแสดงการจดทะเบียนเป็นผู้ส่งผลทุเรียนสดออกไปนอกราชอาณาจักร มีอายุ 2 ปี นับแต่วันออกหนังสือสําคัญการจดทะเบียน ตัวอย่างหมายเลขทะเบียน DU-1-XX-XXX |
กรมวิชาการเกษตร |
| 5 |
ขอใบรับรองปลอดศัตรูพืช (Phytosanitary certificate : PC) |
ขั้นตอนตามเอกสาร “การออกใบรับรองสุขอนามัยสำหรับพืชควบคุมเฉพาะ” |
กรมวิชาการเกษตร |
| 6 |
ขอหนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้า |
หนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าทั่วไป Certificate of Origin (C/O) เป็นหนังสือรับรองที่ออกให้ผู้ส่งออกเพื่อแสดงว่าสินค้ามีถิ่นกำเนิดในประเทศใด และผลิตได้ถูกต้องตามกฎว่าด้วยถิ่นกำเนิดสินค้า ซึ่งใบ C/O จะมีอยู่ 2 ประเภทด้วยกันดังนี้
1. หนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าทั่วไป คือเอกสารที่นำไปใช้รับรองถิ่นกำเนิดสินค้า แต่ไม่สามารถนำไปขอยกเว้นหรือลดหย่อนภาษีอากรขาเข้าได้ เรียกว่า Ordinary Certificate of Origin
2. หนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าแบบพิเศษ ที่นำไปใช้เพื่อขอรับสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากร (ขอยกเว้น หรือลดหย่อนภาษีอากรขาเข้า) เรียกว่า Preferential Certificate of Origin แล้วใบ C/O 2 ประเภทนี้แตกต่างกันอย่างไร?
- Ordinary Certificate of Origin ขอเรียกสั้นๆว่าแบบทั่วไป แบบทั่วไปนี้คือเอกสารที่ใช้เพื่อยืนยันกับผู้ซื้อว่า สินค้าที่ส่งออกไปนั้นประกอบด้วยวัตถุดิบภายในประเทศ มีการผลิต หรือผ่านขั้นตอนกระบวนการผลิตภายในประเทศ
- Preferential Certificate of Origin ศัพท์นำเข้าส่งออกเราเรียกเอกสารสิ่งนี้ว่า "ฟอร์ม" ตัวอย่างเช่น FORM E (ฟอร์มอี) ซึ่งเป็น C/O ที่รับรองว่าสินค้าถูกผลิตในประเทศจีน และ FORM E นี้ ที่ใช้มาขอยกเว้น/ลดหย่อนภาษีอากรขาเข้าจากกรมศุลกากร C/O ที่ใช้ยกเว้นหรือลดหย่อนภาษีได้จึงเป็นชนิดพิเศษ หนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้า การใช้สิทธิพิเศษทางการค้าภายใต้เขตการค้าเสรีต่างๆ เป็นหนังสือรับรองฯ ที่ออกให้แก่ผู้ส่งออกเพื่อใช้ในการขอรับสิทธิพิเศษตามความตกลงว่าด้วยเขตการค้าเสรีต่างๆ ได้แก่
- ความตกลงว่าด้วยเขตการค้าเสรีอาเซียน-จีน ใช้ Form E |
กรมการค้าต่างประเทศ |
| 7 |
บริการค้นหาข้อมูลอัตราภาษี |
- |
กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ |
| 8 |
บริการช่วยเหลือและสนับสนุนการทำธุรกิจส่งออกสินค้า |
- |
กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ |
| 9 |
ตรวจสอบชดเชยค่าภาษีอากรสินค้าส่งออกที่ผลิตในราชอาณาจักร |
- |
กรมศุลกากร |
| 10 |
ขั้นตอนการผ่านพิธีการศุลกากรขาออก |
เมื่อสินค้าได้รับการรับรองการส่งออก และได้รับใบอนุญาตต่างๆเพื่อใช้ในการนำเข้าแล้วผู้ส่งออกต้องเตรียมเอกสารสำคัญต่างๆเช่นใบขนสินค้าขาออก Commercial Invoice และ Packing listเป็นต้น เพื่อใช้ในขั้นตอนการผ่านพิธีการศุลกากรในประเทศไทยและในประเทศนำเข้าด้วย |
กรมศุลกากร |
https://www.moc.go.th/th/bizinfo/index/indexitem/itemID/253/itemCID/1789 https://www.togetherfreight.com/content/11314/export-durian
หมายเหตุ: เนื่องจากทุเรียนเป็นผลไม้ที่ 3 ารถคงความสดอยู่ได้ไม่เกิน 20 วันและคลายความร้อนสูงในการขนส่งทุเรียนจะถูกจัดเก็บในตู้สินค้าห้องเย็นที่มีอุณหภูมิ 13 ถึง 15 องศาเซลเซียส และมีการเปิดช่องระบายอากาศเพื่อระบายความร้อน ดังนั้นผู้ส่งออกจำเป็นต้องเลือกรูปแบบในการขนส่งทุเรียนที่เหมาะสมเพื่อให้คงความสดใหม่ของผลไม้โดยคำนึงถึงเรื่องระยะเวลาในการขนส่งเป็นสำคัญ
(ภาพประกอบ)